วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

หากคุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักกระชับส่วนและเกิดความรู้สึกท้อแท้ เบื่อหน่าย หรืออยู่ในอารมณ์หงุดหงิด เพราะลดน้ำหนักไม่ได้ตามแผนที่ตั้งใจ เรามีคำแนะนำและวิธีการลดน้ำหนักมาฝากเพื่อช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ
1.เพิ่มปริมาณผักในมื้ออาหารมากขึ้น แทนที่จะกังวลหรือจำกัดปริมาณอาหารที่จะรับประทานในแต่ละมื้อ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายอิ่มพอดี ไม่รับประทานอาหารในปริมาณมากจนเกินพอดี
2.ระวังน้ำสลัด อาหารประเภทสลัดที่หลายคนนิยมรับประทานเพราะเข้าใจว่าให้พลังงานต่ำ อาจเร่งให้น้ำหนักยิ่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากน้ำสลัดชนิดต่างๆ ที่มีส่วนผสมของมายองเนส ไข่แดงหรือน้ำมันมาก รวมทั้งของที่โรยหน้าสลัด เช่น ชีสขูดฟอย ขนมปังอบกรอบหรือเบคอนทอด
3.มีความสุขกับรสชาติอาหาร สาเหตุของผู้ที่รับประทานอาหารปริมาณมากเกินมาจากอาหารที่มีรสชาติคุ้นเคย ยิ่งอร่อยถูกใจก็ยิ่งรับประทานเร็วและมากแบบไม่รู้ตัว ดังนั้นหากชอบรับประทานอาหารเมนูใดให้ค่อยๆ ชิมและรับรู้รสชาติอาหารช้าๆ แทนที่จะเคี้ยวและรีบกลืน เพื่อป้องกันการรับประทานมากเกิน
4.ใช้ภาชนะเล็กเพื่อควบคุมปริมาณอาหาร จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยคอร์เนลทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของขนาดจานที่ใส่และความต้องการในการรับประทานอาหาร พบว่า มากกว่า 53% ของคนที่รับประทานขนมที่ใส่ในชามใหญ่จะขอเติมมากกว่าขนมที่ใส่ชามเล็ก ส่วนมหาวิทยาลัยอีลินอยส์ ทดลองด้วยการใส่น้ำผลไม้ในแก้ว 2 รูปทรงคือ ทรงสูงและแคบ กับเตี้ยและกว้าง จากการเสริ์ฟพบว่าคนที่ดื่มน้ำผลไม้แก้วสูงและแคบ ขอเติมน้ำผลไม้น้อยกว่าคนที่ดื่มจากแก้วเตี้ยและกว้าง
5.จดรายการอาหารที่รับประทานทุกวัน เพื่อตรวจสอบว่ารับประทานอาหารชนิดใดเข้าไปบ้างในแต่ละวัน ทั้งนี้จะทำให้ตนเองรู้จักควบคุมและปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารได้ในมื้อต่อๆ ไป
สุดท้ายเพื่อให้ได้ผลดังที่ตั้งใจไว้ ไงก้ออย่าลืมออกกำลังกายควบคู่อย่างเหมาะสมด้วยนะ

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต สูตรน้ำผึ้งมะนาว!
Tag:โยเกิร์ต,อันตราย,ลำไส้,สุขภาพ, หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต !
พอ ดีได้อ่านบทความของนายแพทย์ บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล จากมติชน สุดสัปดาห์ เลยต้องสะดุ้งกันไปเป็นแถบๆ ทั้งญาติพี่น้อง และเพื่อนพ้องในออฟฟิศ ก็เรามันสาวรักสุขภาพ อะไรที่เค้าว่าดิบดีเราก็ทำ เราก็ทาน แต่บางทีเราก็ไม่ค่อยจะได้ฉุกคิดเสียก่อนหรอกว่า มันมีคุณตามสรรพคุณที่เค้ากล่าวอ้างกันจริงรึป่าว เคยมีคนบอกมาเหมือนกันว่า ให้ทำโยเกิร์ต สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว เพราะทานแล้วช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แต่ก็ต้องมาเหยียบเบรกเอี๊ยดอ๊าดกันก็คราวนี้
โดยคุณหมอ บรรจบได้บอกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยไว้ว่า

1. ความหวานจากน้ำผึ้งที่ใส่เข้าไป แคลอรี่ความหวานจากน้ำผึ้งก็คือแคลอรี่จากน้ำตาล การทานน้ำผึ้งไม่ได้ปลอดภัยกว่าการทานน้ำตาล ความหวานของน้ำผึ้งสามารถเปลี่ยนให้โปรตีนจับตัวเป็นก้อน ขนาดแบคทีเรียในโปรตีนยังตายเมื่อเจอกับน้ำผึ้ง คนโบราณจึงมักใช้น้ำผึ้งทาแผลเปื่อยเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ผลข้างเคียงก็คือทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเปลี่ยนสีและแปรรูปกลายเป็นแผลเป็น ส่วนคนจีนโบราณเค้าจะใช้น้ำผึ้งในการดองศพ ลองนึกดูนะว่า น้ำผึ้งเข้มข้นสามารถดองเนื้อเยื่อได้ถึงขนาดนั้น โอ้ว แล้วกระเพาะและลำไส้เราจะเป็นอย่างไร
2. โยเกิร์ต เป็นสิ่งบริโภคที่ไม่เหมาะกับคนเอเชีย เพราะโยเกิร์ตคือผลผลิตของนมวัว ซึ่งคนเอเชียร้อยละ 50 -80 แพ้โปรตีนในนม สามารถทำให้เด็กแรกเกิดเป็นโรคภูมิแพ้ได้ ถึงแม้ว่าการทานโยเกิร์ตจะทำให้ถ่ายท้องได้คล่องก็จริงอยู่ แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาล่ะ นั่นก็ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาภูมิแพ้ของคนนั้นๆ หากคุณมีอาการแพ้นมวัว โปรตีนนมวัวก็จะทำให้เยื่อบุลำไส้ระคายเคือง เซลล์เยื่อบุเกิดอาการบวมน้ำ จึงปล่อยสารคัดหลั่งออกมา ขับถ่ายเป็นน้ำเหลวๆ ออกไป ถ้าปล่อยให้ระคายเคืองซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ก็จะทำให้ภูมิต้านทานคุณปรวนแปร จากแค่อาการแพ้ธรรมดาๆ ก็สามารถพัฒนาการเป็นลมพิษ ผื่นคัน ไปจนถึงหอบหืด และร้ายแรงที่สุกก็คือ โรคลำไส้เรื้อรังค่ะ
3. ท้องผูกต้องแก้ด้วยไฟเบอร์ ต้องทานอาหารพวกเส้นใยอาหารให้มาก การทานโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งมะนาวไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด มีเคสตัวอย่างที่น่าสนใจอยู่เคสหนึ่งของคุณหมอบรรจบ เมื่อคนไข้ท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพ ทานข้าวกล้อง ทานผัก ทานปลา ตามแบบไทย จนผลตรวจเลือดของเธอเมื่อ 2 เดือนก่อนที่เธอจะเปลี่ยนวิธีทานนั้นนับได้ว่าเลือดของเธอสวยมาก ไร้ไขมัน สิ่งตกค้างใดใด สะอาดหมดจดจริงๆ แต่เมื่อ 2 เดือนให้หลัง หลังจากที่เธอหันมาทานโยเกิร์ตเพื่อช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ปรากฎว่าผลเลือดของเธอมีคราบไขมันที่กำลังจะจับตัวเป็นก้อน รวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆ ไขมันในเลือดสูง เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคคลอเรสเตอรอลสูงได้ ลองดูภาพผลเลือดแบบ Dark Field ภาพที่หนึ่งซึ่งเป็นผลเลือดครั้งก่อนของเธอ และภาพที่สอง ซึ่งเป็นผลเลือดหลังจากที่เธอหันมาทานโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง มะนาว ดูค่ะ

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551

My mom


กตัญญู...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
มีหนุ่มเจ้าสำราญผู้หนึ่ง วันๆไม่ยอมทำประโยชน์อะไร
ดีแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ทั้งๆที่อายุอานามก็สมควรแก่การสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะ
และมีครอบครัวแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะมีความรับผิดชอบ ไม่คิดอยากจะรับภาระอะไรใดๆทั้งสิ้น
ด้วยเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพ่อแม่อยู่แล้วที่ต้องหาเงินหาทองไว้ให้ลูก และกิจการที่บ้านนั้น
ทั้งพ่อและแม่ต่างช่วยกันทำมาหากินอย่างขยันแข็ง จนเงินทองที่มีอยู่ชาตินี้เขาคงใช้ไม่หมดด้วยซ้ำ
วันหนึ่ง ชายหนุ่มผู้นี้และเพื่อนๆอีก 2-3 คน พากันเข้าป่า หมายจะไปล่าสัตว์

แต่เมื่อเดินเข้าป่าไปได้สักพักใหญ่
เขาก็เกิดพลัดหลงกับเพื่อน ชายหนุ่มจึงเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย
เขาเริ่มหลงทาง เขาเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย แต่ก็ต้องหาทางเดินต่อไป
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า บรรยากาศรอบข้างมืดลง ไม่เห็นหนทาง เขาจึงทิ้งตัวลงนอน ด้วยความหิวโหยและหมดแรง
รุ่งขึ้น..เขายังคงเดินต่อไป เพื่อหาทางออก จนกระทั่งพระอาทิตย์กำลังจะลับเหลี่ยม
เขาอีกครั้ง แต่ขณะที่เขากำลังจะทิ้งตัวลงอย่างหมดหวัง เขาก็เหลือบไปเห็นแสงไฟจากกระท่อมกลางป่าหลังหนึ่ง
เขาจึงรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่รีบวิ่งไปยังกระท่อมนั้น และได้พบสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งเมื่อไถ่ถามความเป็นมาของชายหนุ่มแล้ว
ทั้งคู่ก็บอกให้ชายหนุ่มไปอาบน้ำอาบท่า แล้วจัดแจงหาข้าวปลาอาหารมาให้กิน
คืนนั้นชายหนุ่มจึงหลับไปด้วยความสุข วันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยความแจ่มใส และรู้สึกตื้นตันใจในความเมตตากรุณา ของสองสามีภรรยาเป็นอย่างมาก
เขาจึงกล่าวขึ้นว่า “ข้าขอขอบคุณท่านทั้งสองที่ได้ช่วยชีวิตข้าในครั้งนี้ แม้เราไม่เคยรู้จักกัน แต่พวกท่านก็ให้การดูแลข้าอย่างดี ข้าไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร จึงจะทดแทนน้ำใจของพวกท่าน ได้”
ฝ่ายภรรยาจึงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แล้วตอบว่า
หนุ่มน้อย ถ้าเจ้าอยากตอบแทนละก็ กลับไปทดแทนบุญคุณพ่อแม่ของเจ้าเถิด พวกเขาเลี้ยงดูอุ้มชูเจ้ามา ให้ทั้งข้าวปลาอาหารน้ำท่าที่พักพิง จนเติบใหญ่เพียงนี้ บุญคุณนั้นใหญ่หลวงนัก เราสองคนแค่ให้ที่พักพิงเจ้าชั่วข้ามคืนหนึ่ง เทียบกับพ่อแม่เจ้าไม่ได้หรอก” ได้ฟังดังนั้น ชายหนุ่มจึงคิดได้ว่า เขาเป็นผู้ที่หลงทางจริงๆ

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

วันนี้มีบาสคณะเป็นวันแรก